ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า “คุณไม่จำเป็นต้องตัวอ่อนหรือต้องแตะเท้าให้ถึง” ถึงจะเริ่มเล่นโยคะได้ ถ้าคุณกำลังรอให้ตัวเองทำท่าได้เป๊ะก่อนจะเริ่ม บอกเลยว่าคุณพลาดจุดสำคัญของโยคะไปแล้ว เพราะโยคะไม่ใช่เรื่องของ “ความสมบูรณ์แบบ” แต่เป็นเรื่องของ “การอยู่กับปัจจุบัน” ต่างหาก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่เคยรู้ — โยคะอาจไม่ทำให้คุณแค่เปิดร่างกายได้ แต่ยังเปิด “ใจ” ของคุณด้วย และบางครั้ง ความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ลึก ๆ อาจไหลออกมาพร้อมกับน้ำตา บนเสื่อโยคะนั่นแหละ และเชื่อไหมว่า… มันคือส่วนที่เยียวยาที่สุดของการฝึกเลย
ความเข้าใจผิดเรื่อง “ความยืดหยุ่น”
หลายคนคิดว่าโยคะเหมาะกับคนที่ตัวอ่อนเท่านั้น ภาพในโซเชียลที่เห็นคนบิดตัวท่ามกลางวิวสวย ๆ ยิ่งตอกย้ำความเข้าใจผิดนั้น แต่จริง ๆ แล้ว โยคะไม่ใช่การแสดง มันคือการฝึกเชื่อมโยง “ร่างกาย จิตใจ และลมหายใจ” เพื่อให้เรารู้เท่าทันตัวเองและสงบจากภายใน
ความยืดหยุ่นไม่ใช่เงื่อนไขในการเริ่มต้น มันคือผลพลอยได้ต่างหาก สิ่งสำคัญคือ “คุณฟังร่างกายตัวเองได้แค่ไหน” และ “คุณอยู่กับปัจจุบันได้มากเพียงใด”
ร่างกายจำได้ทุกอย่าง
เรามักเก็บความเครียด ความเศร้า หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ในร่างกาย — ไม่ใช่แค่ในกล้ามเนื้อ แต่รวมถึงเนื้อเยื่อ ระบบประสาท และอวัยวะภายในด้วย โยคะช่วยให้เราปลดปล่อยสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างปลอดภัย
เมื่อคุณหายใจลึก ๆ ถือท่าไว้นานกว่าที่เคย อยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยไม่หนี บางครั้งอารมณ์เก่า ๆ จะผุดขึ้นมา — ความเศร้า ความโกรธ หรือแม้แต่ความโล่งใจ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเองโดยไม่รู้ตัว
ไม่ต้องตกใจนะ มันคือ “การปลดปล่อยทางอารมณ์” และเป็นเรื่องปกติสุด ๆ
ทำไมถึงร้องไห้ตอนเล่นโยคะ

บางท่าของโยคะ เช่น ท่าเปิดสะโพก (อย่าง Pigeon, Lizard, Bound Angle) มักกระตุ้นอารมณ์ได้มาก เพราะบริเวณนี้เป็นเหมือน “ลิ้นชักเก็บอารมณ์” ของร่างกาย
หรือท่าที่เปิดหน้าอก ยืดหัวไหล่ และบิดลำตัว ก็ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกกดไว้ได้เหมือนกัน
แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยไม่ใช่แค่ท่าโยคะ — มันคือ “ความนิ่ง” และ “ลมหายใจ” ที่ทำให้เราต้องเผชิญกับความรู้สึกของตัวเองอย่างแท้จริง
คุณไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
ถ้าคุณร้องไห้ระหว่างเล่นโยคะ มันไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอหรือเศร้า มันหมายความว่า “บางสิ่งกำลังคลายออก” น้ำตาอาจเป็นความโศกเก่าที่ไม่เคยปล่อยออกมา หรืออาจเป็นความโล่งใจที่ร่างกายอยากขอบคุณคุณ ที่สุดท้ายคุณยอมช้าลงและหันมาฟังมัน
ครูโยคะหลายคนเห็นนักเรียนร้องไห้ในคลาสอยู่บ่อย ๆ บางคนแค่สะอื้นเบา ๆ ในท่า Pigeon หรือมีน้ำตาไหลตอนนอนในท่าสุดท้าย — ทั้งหมดนั้นคือ “ช่วงเวลาแห่งการเยียวยา” ที่ไม่ต้องอธิบายหรือแก้ไข แค่ยอมรับมันก็พอ
ถ้าคุณเป็นมือใหม่ แล้วเกิดอารมณ์ระหว่างฝึก

- ยอมรับมัน — ไม่ต้องกลั้นน้ำตา ปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติ
- อยู่กับลมหายใจ — หายใจลึก ๆ รู้สึกถึงจุดที่ร่างกายสัมผัสพื้น
- คุณไม่ได้อยู่คนเดียว — ทั้งคนฝึกใหม่และคนฝึกมานานต่างก็เคยเจอแบบนี้
- เขียนความรู้สึกหลังคลาส — เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
- บอกครูได้เลย — ครูหลายคนเข้าใจและพร้อมช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัย
- คืนสมดุลให้ตัวเอง — หลังจากร้องไห้หรือปลดปล่อยอารมณ์ ลองอยู่ในท่านิ่ง ๆ เช่น Mountain หรือ Child’s Pose เพื่อเชื่อมต่อกลับมาที่ปัจจุบัน
สำหรับครูโยคะ
- บอกนักเรียนว่า “การร้องไห้ในคลาสเป็นเรื่องธรรมดา”
- สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ให้นักเรียนพักได้เมื่อรู้สึกหนัก
- ไม่ต้องพยายามอธิบายอารมณ์ของพวกเขา แค่ “อยู่เป็นที่รองรับ” ก็พอ
- ปิดคลาสด้วยท่านิ่ง ๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนกลับมาสงบ
การเยียวยาไม่จำเป็นต้องดูดีเสมอไป
หลายคนมาเล่นโยคะเพราะอยากสุขภาพดี แต่สิ่งที่ได้รับกลับไปมากกว่านั้นคือ “การเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ” ซึ่งบางครั้งมันไม่สวยหรู ไม่สง่างาม อาจมีน้ำตา เสียงสะอื้น หรือความรู้สึกที่เราไม่คุ้นเคย
แต่ทั้งหมดนั้นคือของขวัญจากโยคะ — เพราะมันให้คุณได้เป็น “ตัวเอง” อย่างแท้จริง ทั้งในวันที่แข็งแรง และในวันที่อ่อนไหว
ดังนั้น… คุณไม่จำเป็นต้องยืดหยุ่นเพื่อเริ่มเล่นโยคะ
แค่เปิดใจ ยอมรับ หายใจ และฟังร่างกายของตัวเองให้เป็น
และถ้าวันหนึ่งน้ำตาไหลออกมาระหว่างฝึก — ก็ไม่เป็นไรเลย
เพราะนั่นคือ “ร่างกายของคุณ… กำลังกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง”

